Administration Process Affecting to Affecting of Private School of Pathumthani Education Service Area 2

โดย กนกวรรณ  อินทร์น้อย

ปี (2554)

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการปฏิบัติของกระบวนการการบริหารและระดับ ประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 2 2) ศึกษาระดับความสัมพันธ์ของกระบวนการการบริหารกับประสิทธิผลองโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 2 และ 3) ศึกษากระบวนการการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 2)

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยมี 2 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) ผู้บริหารและครูผู้สอน จำนวน 310 คน จำแนกเป็นผู้บริหาร จำนวน 45 คน และครูผู้สอน จำนวน 265 คน ได้มาจากการคำนวนจำนวนกลุ่มตัวอย่างจากตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกนหลังจากนั้นทำการสุ่มตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น จนครบจำนวนตามสัดส่วนของกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามกระบวนการการบริหารและแบบสอบถามประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 2 สำหรับผู้บริหารละครูผู้สอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล   ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสหสัมพันธ์อย่างง่ายและค่าการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน

ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้บริหารและครูผู้สอนมีระดับการปฏิบัติกระบวนการการบริหารทั้ง 7 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ระดับการปฏิบัติกระบวนการการบริหารของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 2 เรียงลำดับจากมาไปหาน้อยได้แก่ ด้านการวางแผน (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.02) ด้านการจัดองค์การ (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.99) ด้านการประสานงาน (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.83) ด้านการรายงาน (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.79) และด้านการอำนวยการ (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.76) ผู้บริหารและครูผู้สอนให้ความสำคัญกับระดับประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 2 ทั้ง 4 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ระดับประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 2 การศึกษาปทุมธานีเขต 2 เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้แก่ ด้านความสามารถในการแก้ปัญหา (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.12) ด้านความสามรถในการปรับตัว (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.01) ด้านความสามารถในการผลิต (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.75) และด้านความสามารถพัฒนาทัศนคติทางบวก (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.69) ตามลำดับ 3) กระบวนการการบริหาร ทั้ง 7 ด้าน โดยรวมมีระดับความสัมพันธ์สูงและมีความทิศทางความสัมพันธ์ทางบวกกับประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 2 ซึ่งมีค่าประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ( r เท่ากับ0.710) และ 4)  กระบวนการการบริหารด้านการรายงาน ด้านการจัดงบประมาณ และด้านการการประสานงาน โดยรวมส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 2 ได้  (ร้อยละ 50.30) โดยมีความคลาดเคลื่อนในการพยากรณ์ (ร้อยละ 28.806) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .01

Download: กระบวนการการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานเขตื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต 2

 

Comments are closed.